ปัจจุบัน “ผ้าพันคอ” นับว่ามีบทบาทอย่างนึงสำหรับผู้หญิง สามารถนำมาเติมเป็น แอ็คเซสเซอรี่ได้อย่างลงตัว จากผู้หญิงที่แต่งตัวธรรมดา สามารถเสริมบุคลิกด้วย “ผ้าพันคอ” สวยๆสักผืน เท่านี้ก็ส่งให้ดูเก๋ เปรี้ยว ชิค ได้อย่างง่ายดาย คำถามคือ แล้วผ้าพันคอ คุณสมบัติดังว่าอยู่ที่ไหน?....SME มีแวว วันนี้ ภูมิใจเสนอ “Kiss Me Doll” ผ้าพันคอรับลองไม่มีใครเหมือน น่ารัก มีสไตล์ในแบบเฉพาะตัว
จุดเริ่ม 'Kiss Me Doll'
สิษฐ์ – พสิษฐ์ รัตน์จารุพงศ์ เจ้าของธุรกิจผ้าพันคอ “Kiss Me Doll” เผยกับไทยรัฐออนไลน์ว่า "ก่อนหน้านี้ “Kiss Me Doll” เป็นชื่อแบรนด์ตุ๊กตาผ้าผลิตเพื่อการส่งออกมาก่อน ต่อมาเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้วก็มองว่างานที่เป็นแนวแฟชั่นน่าจะไปได้ดีกว่า โดยเฉพาะผ้าพันคอ คิดว่าน่าจะมีความเป็นไปได้ในธุรกิจมากที่สุดเพราะเรารู้ว่ากลุ่มลูกค้าเราคือใคร ดังนั้นเราจึงเริ่มมุ่งหน้ามาทำธุรกิจผ้าพันคอแทนตุ๊กตาส่งออกอย่างจริงจัง โดยตอนนั้นเราเริ่มจากการทำเป็นธุรกิจเล็กๆ แต่ปรากฏว่าผลตอบรับดีเกินคาด"
เทคนิคออกแบบให้ชิคตรงใจ
ความโดดเด่นของ “Kiss Me Doll” จะอยู่ที่โทนสี ลายการออกแบบ โดยจะออกแนวน่ารักๆ ส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจได้มาจากการเก็บข้อมูลความต้องการลูกค้า ว่าเขาต้องการผ้าพันคอแบบไหน ทางทีมออกแบบก็จะตอบโจทย์นี้ได้อย่างตรงจุดมากที่สุด
แอคเซสเซอรี่ หรือของขวัญ แบบไหนก็โดน!
...“Kiss Me Doll” ถือเป็น แบรนด์ผ้าพันคอที่ออกแบบเอง โดยใช้ดีไซเนอร์จากฝีมือคนไทย และผลิตเองในประเทศไทย โดยคำนึงตั้งแต่การคัดสรร ลายผ้า ที่เหมาะกับผู้หญิงทุกสไตล์ ทั้งเปรี้ยว หวาน ชิค ทุกวัย ตั้งแต่เด็กถึงวัยคนทำงาน ต่อด้วย การเลือกใช้สี เราก็จะคำนึงถึงการใช้งาน ได้หลายๆ โอกาส และจะเลือกคัดสรรให้เหมาะกับการแต่งตัวของบุคลิกของคนแต่ละคน และสามารถนำมา Mix&Match ให้เข้ากับชุดได้ลายชุด นอกจากนี้ “Kiss Me Doll” คำนึงคุณภาพ วัตถุดิบ ลายที่คัดสรรอย่างพิถีพิถัน สามารถซื้อไปใช้เอง หรือนำไปเป็นของขวัญ ของฝาก ได้อย่างมีสไตล์ เพราะทาง “Kiss Me Doll” มีกล่องที่ดีไซน์เอง อย่างสวยงามประทับใจผู้รับแน่นอน
ผ้านุ่ม...สั่งทอเป็นพิเศษ
เจ้าของร้านเล่าต่อไปว่า "นอกจากลวดลาย สีสัน ที่ดีไซน์ขึ้นมาแบบเฉพาะตัวแล้วผ้าที่ใช้เราจะสั่งทอขึ้นมาเป็นพิเศษ ฉะนั้นผ้าชนิดนี้จะหาซื้อที่ไหนไม่ได้ นอกจากที่ Kiss Me Doll ที่เดียว โดยจุดเด่นของผ้าที่เราใช้คือ เหมาะกับอากาศบ้านเรา แม้แต่ฝีจักรที่เย็บยังต้องเนี้ยบ คือ เรายอมที่จะมีต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อเราต้องการให้สินนค้าของเราเป็นสินค้าที่ดีที่สุด โดยราคาขายก็สมเหตุสมผล เริ่มตั้งแต่ 400-1,600 บาท/ผืน"
ที่มา..http://www.thairath.co.th/content/340397
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น