ไข่กระโหลก ข้าวไข่เจียวแนวใหม่

| วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2558
ไข่กระโหลก เป็นอาหารไทยแนวใหม่ ซึ่งเป็นการประยุกต์ ขนมครกญี่ปุ่น และข้าวไข่เจียวแบบไทย ไว้ด้วยกัน ได้อย่างลงตัว เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ชื่นชอบกินอาหารแนวใหม่ สไตล์ วัยทีน ซึ่งใครที่ชื่นชอบท่องเที่ยวตลาดน้ำแบบย้อนยุค คงจะพบเห็นและได้ลิ้มลองรสชาติไข่กระโหลกกันมาบ้างแล้ว 





สำหรับร้านไข่กระโหลกปัจจุบันยึดทำเลแหล่งท่องเที่ยวย้อนยุค เป็นทำเลทองในการเปิดร้าน ไม่ว่าจะเป็นที่อัมพวา ร้านแรกของไข่กระโหลกของ “นายสุชาย บุญกล่อมจิตร” หรื อร้านที่สอง ที่ตลาดน้ำขึ้นชื่อดังอย่างตลาดน้ำอโยธยา ของ “นาย ธนาพันธ์ นาคดี” สองหุ้นส่วนสำคัญที่พลิกผันตัวเองจากนักออกแบบตกแต่งภายใน และ มัคคุเทศน์ หันมาเอาดีเป็นพ่อค้าขายไข่กระโหลก จนกลายเป็นเศรษฐีย่อยๆ มีรายได้เฉลี่ยหลายพันบาทต่อวัน

นายสุชาย เล่าถึงที่มาของไข่กระโหลก เกิดขึ้นมาจากเราสองคน ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ เมื่อหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ต้องหันมาหาอาชีพอื่นๆ ที่สามารถสร้างรายได้ และมีเงินสดใช้จ่ายทุกวัน และเห็นว่าการขายอาหารการกินเป็นช่องทางที่ดี เพราะไม่ว่าเศรษฐกิจ จะเป็นเช่นไร คนเราก็ต้องกิน ตอนแรกคิดทำข้าวไข่เจียวขาย แต่เห็นว่ามันไม่แปลก เพราะปัจจุบันมีคนทำข้าวไข่เจียวขายกันทั่วไป



จนกระทั่งได้มีโอกาสเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น และเห็นขนมครกญี่ปุ่นน่าสนใจดี แต่ก็มีคนทำขายกันอยู่เป็นจำนวนมากในบ้านเราเช่นกันและไม่ใช่อาหารไทย ซึ่งไม่รู้ว่าคนไทยจะชื่นชอบแค่ไหน จึงเกิดความคิดว่า ทำไมเราไม่ประยุกต์นำข้าวไข่เจียว อาหารแบบไทยๆ มาประยุกต์ใช้วิธีการทำแบบขนมครกญี่ปุ่น ซึ่งถ้าเป็นข้าวไข่เจียวธรรมดาและนำมาห่อแบบขนมครกญีปุ่น มันก็ธรรมดาไปอีก จึงคิดทำไส้ขึ้นมา และใส่ลงในห่อไข่พร้อมกับข้าว ซึ่งใช้ข้าวผัดปรุงรส

หลังจากนั้น ปรุงรสด้วยซอสที่เราคิดค้นขึ้นมา เพิ่มรสชาติด้วย ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ และมายองเนส รองก้นด้วยกะหล่ำปรี ออกมาเป็นไข่กระโหลก เพิ่มความน่าสนใจ สำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้วยกล่องที่ออกแบบขึ้นมาเป็นพิเศษ ทำให้ไข่กระโหลก ดูทันสมัย และสะดวกแก่การซื้อกลับออกไปกินในสถานที่ต่างๆ
ทั้งหมดเป็นแนวคิดของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการจะฉีกรูปแบบอาหารไทย ให้ไม่ซ้ำซากจำเจ เพราะในปัจจุบัน มีอาหารจากประเทศต่างๆ เข้ามาเป็นจำนวนมาก และดึงกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ให้หันไปสนใจ และซื้อกินกัน จนบางครั้งลืมอาหารไทย ถ้าเราไม่รู้จักนำมาประยุกต์ให้ดูทันสมัย สุดท้ายก็ต้องนำเข้าอาหารจากต่างประเทศเข้ามาจนลืมอาหารไทย แบบข้าวไข่เจียว ที่มีคุณค่าทางอาหารมากมาย และราคาไม่แพง

นายสุชาย เล่าว่า สำหรับช่องทางการขาย เนื่องจากมองว่าอาหารในลักษณะนี้ ไม่ใช่อาหารที่ใครจะกินได้ทุกวัน เช่นเดียวกับอาหารหลายชนิด เช่น พิซซ่า ก็คงจะไม่มีใครกินได้ทุกวัน ดังนั้น ผมจึงมองตลาดซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว เพราะคนมาเที่ยวจะหมุนเวียนเปลียนหน้ากันไปเรื่อย ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะมีกำลังซื้อ และตั้งใจจะมาหาซื้อของฝากและของกินอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ที่เลือกแหล่งท่องเที่ยวแนวย้อนยุค เพราะต้องการจะนำเสนอไข่กระโหลกออกมาในแนวอาหารย้อนยุค ซึ่งคำว่ากระโหลกเป็นคำไทยโบราณที่สามารถเป็นตัวสื่อได้ โดยเปิดแหล่งแรกที่ตลาดน้ำอัมพวา ตลาดน้ำอโยธยา ตลาดน้ำ 4 ภาคที่พัทยา และตลาดเพลินวา ที่หัวหิน และมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มในรูปแบบของแฟรนไชส์ เพราะต้องการจะกระจายสินค้าให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และเห็นว่าน่าจะเป็นช่องทางให้กับคนที่ต้องการจะมีอาชีพได้มีรายได้ และจากประสบการณ์ทีเราทำมาประมาณ 1 ปี พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า สามารถขายได้ ในระดับที่น่าพอใจ โดยส่วนของสาขาตลาดน้ำอโยธยา สามารถขายช่วงวันหยุดประมาณ วันละ 15,000 บาท ถึง 20,000 บาท ส่วนวันธรรมดา 3,000 บาท ถึง 5,000 บาท โดยเชื่อว่า จะสามารถคืนทุนได้ภายใน 2 - 3 เดือน ถ้าได้ทำเลที่ดี


สำหรับราคาแฟรนไชส์มีราคาเดียว 85,000 บาท ได้อุปกรณ์ในการขายครบชุดพร้อมคีออส และวัตถุดิบในการขายงวดแรก พร้อมถ่ายทอดสูตรการทำทั้งหมดให้ และหลังจากนั้น ลูกค้าแฟรนไชส์จะต้องซื้อวัตถุดิบจากเราในสัดส่วน 20 % คือ ตัวซอสปรุงรส เพื่อให้รสชาติเดียวกัน และกล่องเพื่อให้คงคอนเซ็ปต์เดียวกัน ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ สามารถหาซื้อเองได้ แต่จะกำชับขอให้คัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพดี เช่นเดียวกับร้านต้นแบบเพื่อจะได้คุณภาพเดียวกันทุกสาขา

ในส่วนไข่กระโหลกปัจจุบันมีให้เลือก 3 ไส้ คือ ปลาแซลมอน ซีฟู้ด ไส้กรอกชีส และที่ขายดีสุดเป็นไส้ซีฟู้ด ในอนาคตอาจจะมีการเพิ่มตัวท้อปปิ้ง ที่ปัจจุบันมีเพียงซอส มายองเนส พริกขี้หนูและหัวไช้โป้วหวาน ส่วนราคาขายลูกละ 40 บาท ต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 60% เพราะใส่เครื่องเยอะ ให้คุ้มกับราคา ที่ตั้งไว้ ซึ่งลูกค้าแฟรนไชส์ต้องการให้ขายในราคาเดียวกัน

“สำหรับการทำธุรกิจไข่กระโหลก ตัวนี้ ผมไม่ได้คาดหวังเพียงแค่ยอดขาย หรือ ผลกำไรเท่านั้น แต่เราต้องการจะสร้างแบรนด์อิมเมจ ซึ่งเป็นความตั้งใจของเราตั้งแต่เริ่มแรก ตั้งแต่ตั้งชื่อไข่กระโหลก การออกแบบร้าน ออกแบบเพคเกจจิ้ง ทุกอย่างจะต้องดูทันสมัยและสะดุดตาให้คนจดจำได้ ที่สำคัญ เราจำเป็นจะต้องทำไข่กระโหลกออกมาให้ดีและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป เพื่อจะได้จดจำแบรนด์ของเรา ในอนาคตมีแผนที่จะทำผลิตภัณฑ์อื่นๆ ภายใต้แบรนด์ไข่กระโหลก ออกมาขายเพิ่ม เช่น เสื้อ พวงกุญแจ หรือของที่ระลึกอื่นๆ”

โทร. 08-9799-3225

ที่มา..http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9530000115439

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Next Prev
▲Top▲