แตงโมสร้างรายได้เป็นล้าน ลองอ่านดู

| วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2558


คุณพูนทอง ปัจจุบัน อายุ 51 ปี บอกว่า เป็นคนบ้านไร่ ตำบลไร่ โดยกำเนิด เชื้อสายคนภูไทย อาชีพดั้งเดิมทำนา ทำไร่ หลังจากจบระดับมัธยมศึกษาแล้ว เข้าเรียนต่อระดับ ปวส. จนจบ จากนั้นหันไปทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทเกี่ยวกับการส่งเสริมเกษตรในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ปลูกมะเขือเทศ แตงแคนตาลูป แตงโม และพืชอื่นในภาคฤดูแล้ง เนื่องจากในพื้นที่ของจังหวัดสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร อำเภอพังโคน และพรรณานิคม เป็นพื้นที่รับน้ำจากเขื่อนชลประทานน้ำอูน เพื่อทำการเกษตรได้ทุกฤดู

ด้วยความที่เป็นฝ่ายส่งเสริมของบริษัทดังกล่าว จึงได้ลงพื้นที่คลุกคลีกับเกษตรกรทุกกลุ่ม และผ่านการอบรมรับความรู้การปลูกพืชฤดูแล้ง และอื่นๆ มามาก

เมื่อแต่งงานกับ คุณดวงพร ศูนย์จันทร์ ก็หันมาทำการเกษตรเสริมด้วยการปลูกแตงโม จำหน่ายผล ส่วนตัวก็ไปทำงาน และให้ภรรยาดูแล เมื่อว่างก็จะออกมาช่วยดู ปรากฏว่าขายได้ดี ตลาดต้องการมาก

คุณพูนทอง บอกว่า ในช่วงนั้นได้มีเพื่อนๆ ในหมู่บ้านแนะนำให้หันมาลงสมัคร สมาชิก อบต.ไร่ เพราะเห็นว่าเป็นที่รู้จักของชาวบ้านเป็นอย่างดี ประกอบกับชอบเป็นคนช่วยงานด้านสังคม เขาได้รับเลือกเข้าไปทำงาน จากนั้นได้รับเกียรติจากเพื่อนสมาชิก อบต. ให้เป็นประธาน สภา อบต. ด้วย

แม้ในช่วงที่ทำงานการเมืองก็ทำการเกษตรตลอดเวลา ชาวบ้านก็บอกว่า เป็น สมาชิก อบต. เปื้อนขี้ตม หมายถึงเปื้อนโคลน เพราะหากว่างจากงานก็จะมาคลุกคลีอยู่กับงานเกษตรของตน จึงมองดูเปื้อนโคลนตลอดเวลา แต่เป็นสิ่งที่ให้ความสุข



หลังจากนั้นเมื่อหมดวาระลง เพื่อนๆ หนุนให้สมัครเป็นนายกเทศบาลตำบลไร่ หลังจากที่ได้ยกฐานะขึ้นมา จึงลงสมัคร ปรากฏว่าแพ้คู่แข่งไปคะแนนเดียว ก็ไม่คิดอะไรมาก หันมาทำการเกษตรปลูกแตงโมจากกินผลมาเป็นแบบขายเมล็ดพันธุ์ เพราะทราบว่าเกษตรกรในหมู่บ้านและใกล้เคียงและต่างจังหวัดที่สนใจว่าแตงโมของตนเองทำไมหวานอร่อย เนื้อสีแดง ได้พันธุ์มาจากที่ใด ซึ่งได้แจ้งไปว่าผสมพันธุ์เอง โดยได้อาศัยประสบการณ์ตอนเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ทำ มาทำเองกว่า 20 ปี

ที่มาของการผลิตเมล็ดพันธุ์ แตงโม “รสสุคนธ์ 189”

คุณพูนทอง บอกว่า ตนปลูกแตงโมขายผลและเมล็ดพันธุ์ หลังจากนั้นไม่นานเมื่อมีการเลือกตั้งอีก เพื่อนได้เข้ามาแจ้งว่าน่าจะลองอีกสักครั้ง จึงลงสมัคร นายก ทต.ไร่ และก็ได้รับเลือกเข้ามาบริหารเป็นสมัยแรก
ถึงแม้ว่าจะได้เป็น นายก ทต. ก็ยังทำการเกษตร ปลูกแตงโมขาย ทั้งผลและเมล็ด พร้อมพัฒนาสายพันธุ์ จาก “กมลทิพย์ 101” มาเป็น “รสสุคนธ์ 189” จนถึงวันนี้ ปลูกครั้งละ 10 ไร่
สิ่งที่น่าสนใจมากนั้น คุณพูนทอง ผลิตเมล็ดพันธุ์จำหน่ายเพื่อให้เกษตรกรนำเมล็ดไปปลูก เพื่อเป็นแตงโมกินผล (เนื้อ)
คุณพูนทอง เล่าถึงวิธีการปลูกแตงโมว่า การเตรียมแปลงปลูกแตงโม ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นหัวใจของการปลูกพืชที่จะยึดถือเกาะรากและเป็นแหล่งอาหารของพืชที่จะใช้อาหารในการเจริญเติบโต

ขั้นตอนแรกคือ ไถดะ ด้วยผาลเบิกหน้าดิน เพื่อไถให้หญ้าและวัชพืชต่างๆ ตาย ตากดิน 7-10 วัน เพื่อฆ่าเชื้อโรคและแมลงที่อยู่ในดิน หรือไถแปรด้วยผาลพวง หรือผาลแปรดิน เพื่อให้ดินละเอียดมากยิ่งขึ้น

จากนั้นเริ่มทำร่อง โดยวัดระยะห่างระหว่างแถว 5-6 เมตร โรยร่องปุ๋ยด้วยสูตร 16-16-16 อัตราราว 25 กิโลกรัม ต่อไร่ พร้อมปูนขาว 15-20 กิโลกรัม

ส่วนความกว้างของร่อง จะอยู่ที่ 80-100 เซนติเมตร ความสูงเฉลี่ย 30 เซนติเมตร



คุณพูนทอง บอกอีกว่า ในส่วนตนนั้นจะใช้พลาสติกคลุมแปลง และไม่นิยมที่เจาะรูมาให้ เนื่องจากจะผิดระยะที่ต้องการ จึงนำมาเจาะรูเอง

สมัยก่อน...การเพาะเมล็ดแตงโม มักจะใช้วิธีหยอดหลุมในแปลง ซึ่งเป็นวิธีดั้งเดิม จะเปลืองเมล็ดพันธุ์ เสี่ยงต่อแมลงกัดกินเสียหายด้วย การงอกงามเจริญเติบโตไม่พร้อมกัน มีปัญหาต่อการดูแล

แต่หากนำมาเพาะในกล่องกระดาษ จะทำให้ได้พันธุ์ที่แข็งแรง โดยในส่วนนี้ ขอกล่าวถึงเพียงเมื่อเพาะกล้าเมล็ดพันธุ์แล้ว ประมาณ 12 วัน เมล็ดงอก นำไปลงแปลงที่เตรียมไว้ 5 วัน รดน้ำ และปุ๋ย สูตร 0-46-0 เร่งราก โดยอัตราส่วน ปุ๋ย 1 กิโลกรัม ต่อน้ำ 200 ลิตร รดที่ต้น ประมาณ 1 แก้ว

จากนั้นจะสังเกตพบมีแมลง เริ่มพ่นยาปราบศัตรูพืชและเชื้อรา

ในช่วง 12 วันนั้น พบว่าแตงมียอดแล้ว ให้เริ่มเด็ดยอด ไว้ 3-5 เป็นใบจริง เพื่อให้แตงโมแตกยอดและสังเกตหากยอดโผล่ 10-15 เซนติเมตร ให้แต่งกิ่ง เลือกกิ่งที่สมบูรณ์ไว้ 2 กิ่ง และรดน้ำให้ปุ๋ย 5 วัน ต่อครั้ง ตามสภาพอากาศ
จากนั้น 20 วัน แตงโมออกดอกให้เห็น จึงเริ่มผสมเกสร

เทคนิคการผสมต้องจัดเถาแตงให้ตรง แต่งกิ่งแขนงที่มีออก 4-5 ออกจากเถาแต่ละเถา
สังเกตเมื่อออกดอกประมาณ 10% ก่อนผสมให้เด็ดดอกบานทิ้ง เพราะพืชที่แตกดอกแยกเป็น 2 ประเภท คือ สมบูรณ์และไม่สมบูรณ์

เมื่อตกตอนเย็นต้องนำอุปกรณ์มาครอบที่ดอกทันที ทั้งนี้เพื่อป้องกันแมลงตอม หรือผสมก่อน เป็นเหตุให้กลายพันธุ์
ให้เกษตรกรเก็บพ่อพันธุ์ ในสายพันธุ์ที่เตรียมไว้ นำไปผสมกับดอกที่ครอบไว้ จากนั้นนำยางหนังสติ๊ก สวมดอกที่ผสมเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ผ่านการผสมเพื่อตรวจการเก็บที่สมบูรณ์ และทำกรวยกระดาษมาสวมทับดอกที่ผสม เพื่อป้องกันการผสมซ้ำจากแมลง จนลูกโต เมื่อแตงให้ผลโตเริ่มสุกเต็มที่ เก็บในช่วงประมาณ 60 วัน

จากนั้นนำแตงโมมาผ่า และล้างตามขั้นตอน เอาเมล็ดมาตากแดด

วิธีการตากแดด เทคนิคของตนจะตากในช่วงเช้า 5 โมงเช้า ไปถึงบ่าย ประมาณ 13.00 น. นั้น จะต้องหาผ้ามาคลุมเพื่อป้องกัน เนื่องจากอุณหภูมิสูง จะส่งผลให้เมล็ดงอกน้อยไม่ได้ผล 100% และอย่างน้อย 3 วัน จึงมาแยกคัด ทำความสะอาด และจึงนำไปจำหน่าย



ปัจจุบัน จำหน่าย กิโลกรัมละ 2,500-3,000 บาท โดยตลาดส่วนใหญ่ในพื้นที่ยังไม่พอจำหน่าย ซึ่งในต่างจังหวัดจะคิดค่าจัดส่งเพิ่มอีก และในส่วนพันธุ์ผสม “รสสุคนธ์ 189” รับรองความงอกแน่นอน ในทุกวันนี้ ตนปลูกแตงโมจำหน่ายเมล็ดพันธุ์เป็นหลัก อยู่ที่ 10 ไร่ ได้จำนวน 100-150 กิโลกรัม ในรอบหนึ่งหรือ 60 วัน หรือประมาณ 350,000 บาท


คุณดวงพร ศูนย์จันทร์ ภรรยาคุณพูนทอง กล่าวว่า ชีวิตในแต่ละวัน ทำการเกษตรเป็นหลัก ลูกชายคนโตก็จบเกษตร จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ออกมาทำงานแล้ว คงเหลืออีก 2 คน กำลังศึกษาอยู่ และใน 1 ปี จะปลูกแตงโมได้ 3 รอบ
สำหรับต้นทุน-ค่าใช้จ่าย จำนวน 10 ไร่ ไร่ละ 10,000 บาท หรือราว 100,000 บาท จึงคิดว่าเป็นรายได้ที่น่าพอใจ ซึ่งทุกวันนี้สามารถส่งลูก 3 คน จบสูงได้ไม่เดือดร้อน


อย่างไรก็ตาม หากเกษตรกรหรือกลุ่มองค์กรใดสนใจอยากศึกษาหรือนำไปปลูกและจำหน่าย ติดต่อได้ที่ คุณพูนทอง ศูนย์จันทร์ โทร. (082) 851-9927 ทุกวัน

ที่มา..http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1449128016&grpid=03&catid=&subcatid=

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Next Prev
▲Top▲