HipArt OEM เคสมือถือไอเดีย สุด CHIC

| วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2557
วันนี้มีมือถือสมาร์ทโฟนออกสู่ตลาดไม่น้อยกว่า 20 ล้านเครื่อง โดยปีนี้คาดว่าจะขายได้กว่า 7.5 ล้านเครื่อง ดังนั้นในช่วง 1-2 ปี ที่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับมือถือจึงขายดิบขายดี โดยเฉพาะในกลุ่มของ “Accessories” ซึ่งรวมถึง “เคสมือถือสั่งทำ” ด้วยธุรกิจผลิตเเละออกแบบเคสมือถือสมาร์ทโฟนจึงได้รับความสนใจ และเป็นอีกทางเลือกของนักลงทุนหน้าใหม่ ที่อยากเริ่มธุรกิจในยุคโซเชียลเน็ตเวิร์คนี้
ซึ่งวันนี้คุณก็สามารถทำธุรกิจเคสมือถือได้ โดยที่ไม่ต้องบินไปต่างประเทศเพื่อดูเครื่องไม้เครื่องมือในการผลิตเอง หรือลงทุนเรือนแสนเรือนล้าน เพื่อที่จะได้มีเครื่องจักรคุณภาพสูงที่พร้อมผลิตสินค้า ออกสู่ตลาดทุกเมื่อ รวมถึงหาดีไซเนอร์มาออกเเบบลายเคส เพราะวันนี้ บริษัท มูราโน่ แคปปิตอล จำกัด บริษัทที่นำเข้าเครื่องรับผลิตและออกแบบเคสมือถือดีไซน์เก๋ชื่อดังแบรนด์ “HipArt” ได้ขยายโมเดลธุรกิจใหม่อย่าง OEM หรือรับจ้างผลิตเคสมือถือ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของแบรนด์เคส ที่คงไว้ซึ่งไอเดียในแบบคุณเองได้ง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องลงทุนสูง ความเสี่ยงต่ำ แถมได้กำไรกว่าเท่าตัว
ทั้งนี้คุณวิศาล ศักดิ์พรทรัพย์ ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท มูราโน่ แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยว่า “เราถือเป็นเจ้าแรกที่นำเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์เคสมือถือเเละสินค้าแฟนซี ทั้งเเบบซิลิโคน พลาสติก เเละหนัง “HipArt” ของเกาหลีเข้ามาในไทย โดยทุกวันนี้ทำธุรกิจผลิตเคสมือถือ ยี่ห้อชั้นนำอย่าง Apple iPhone, iPad, Sumsung Galaxy รวมทั้งสมาร์ทโฟน ยี่ห้ออื่นๆ เปิดให้บริการอยู่ 11 สาขา ตามห้างเช่น Paragon Emporium Loft Future Park ได้รับการตอบรับที่ดีมาก จากความสำเร็จนี้สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจมีอนาคตที่ดีมาก จึงเกิดไอเดียธุรกิจใหม่ คือ การรับจ้างผลิต (OEM) เพราะต้องการจะสร้างโอกาส เเละรายได้ให้กับดีไซน์เนอร์ ที่อยากทำธุรกิจผลิตเคสมือถือสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองขึ้นมา
ทั้งนี้คุณวิศาล กล่าวว่าไอเดียการรับจ้างผลิตเคสมือถือ (OEM)ให้ผู้ที่สนใจในครั้งนี้ว่า เพราะอยู่ในธุรกิจตรงนี้มานานทำให้เข้าใจโจทย์ของนักลงทุน ซึ่งโดยปกติหากสนใจอยากทำธุรกิจผลิตเคสมือถือ จะต้องลงทุนสูงมาก อาทิ ต้องซื้อเครื่องพิมพ์เคส และอุปกรณ์ต่างๆ อีกนับหลายหมื่นบาท อาทิ หมึกพิมพ์ เช่นหมึก 6 สี สีละ 100 ซีซี และต้องมีเคส มาตุนสำรองด้วย ยังไม่รวมค่าอะไหล่เเละซ่อมบำรุง รวมถึงพนักงานออกเเบบ เเละผลิต
หากมองแล้วจะพบว่าคุณต้องมีค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่หากร่วมธุรกิจกับ “HipArt” ไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายจำนวนมากขนาดนั้น แค่ออกแบบแล้วส่งมาให้ทาง “HipArt” จะดูแลทุกอย่างให้ลูกค้าทั้งหมด ในกระบวนการผลิต เรียกว่าสร้างความสะดวกสบายให้ลูกค้าอย่างเต็มที่ ส่วนกำไรที่จะได้รับนั้น เมื่อลูกค้าผลิตเคสชิ้นแรก ก็ถือว่าเป็นกำไรแล้ว เนื่องจากไม่ต้องออกค่าใช้จ่าย อะไรเลย “HipArt” ดูแลทุกอย่าง

โดยปัจจุบันทางบริษัทได้แบ่งการลงทุน 4 ช่องทาง ตามความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
1. รับจ้างผลิต สำหรับคนที่มีไอเดียการออกแบบดีๆ และอยากทำเคส สร้างแบรนด์ของตนเอง ก็สามารถมาว่าจ้างให้เราซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีช่วยผลิตให้ได้ตามสเปคที่คุณต้องการ โดยทางบริษัทจะทำหน้าที่เหมือน ONE STOP SERVICE ที่ผลิต เเละส่ง EMS ให้ลูกค้าของผู้ว่าจ้าง โดยทาง “HipArt” จะคิดค่าสมัครร่วมธุรกิจเพียงแค่ 1,000 บาท/ปี ความพิเศษอยู่ตรงที่เราพร้อมผลิตให้เเม้สั่งเพียงทีละ 1 ชิ้น เเละให้เครดิตก่อน 5,000 บาท ซึ่งผู้ว่าจ้างไม่ต้องซื้อสด เหมือนเป็นการช่วยเหลือให้ตั้งต้นธุรกิจได้อีกทางหนึ่ง
2. รับสินค้าไปจำหน่ายต่อ ปัจจุบัน “HipArt” มีดีไซเนอร์กว่า 12 คน จากทั่วโลกออกเเบบใหม่ทุกเดือน สามารถผลิตเคสที่หลากหลาย สำหรับคนที่มีร้านค้า หรือ Online Store อยู่แล้ว ต้องการหารายได้เสริม ทาง “HipArt” พร้อมขายเคสให้ในราคาส่ง โดยสามารถคละแบบ คละลายได้ โดยกำหนด ขั้นต่ำเพียง 10 ชิ้น
3. อยากร่วมลงทุน สำหรับลูกค้าที่มีร้านขายอุปกรณ์เสริม Mobile Accessories อยู่แล้ว และอยากสร้างจุดขายให้กับทางร้าน “HipArt” จะนำเครื่องไปลงที่ร้านของลูกค้า ซึ่งผลตอบแทน หรือรายได้นั้น ก็จะมีการแบ่งเปอร์เซ็นต์กันไป นั่นหมายความว่า คุณจะได้รายได้ที่เพิ่มขึ้น โดยที่ไม่ต้องลงทุนแต่อย่างไร
4. ซื้อเครื่อง “HipArt” นำไปประกอบธุรกิจเป็นของตัวเอง ราคาก็จะอยู่ที่ 300,000 บาท ส่วนทำเลที่เหมาะสม หากจะทำธุรกิจนี้ คือ พื้นที่หัวเมืองตามต่างจังหวัด รวมถึงเเหล่งท่องเที่ยวจะเป็นทำเลที่ดี เนื่องจากตัวเลือกยังมีไม่มากนัก ตรงกันข้ามความต้องการของคนที่อยากมีเคส เเละสินค้าแฟนซี ในรูปแบบที่ตัวเองต้องการกลับมีมากยิ่งขึ้น
พร้อมกล่าวต่อถึงความพิเศษของ “HipArt” ที่มีความโดดเด่นกว่าเครื่องทั่วไปในตลาดตรงที่ว่า เป็นเครื่องพิมพ์เคสเเละสินค้าแฟนซีที่มีคุณภาพสูงจากเกาหลี รายละเอียด 5,760 dpi ไม่เสียง่าย พิมพ์เร็วเพียงแค่ 2 นาที ซึ่งลูกค้าไม่ต้องเสียเวลารอ และโปรเเกรม Update ตลอดเมื่อมีสินค้าใหม่ นอกจากนั้น “HipArt” มีดีไซเนอร์ 12 คน จากทั่วโลกที่ออกเเบบใหม่ทุกๆเดือน รวมไปถึงวาไรตี้ ของสินค้าซึ่ง “HipArt” เป็นเจ้าเดียว ที่มีเคสสมาร์ทโฟนตั้งเเต่รุ่นถูก (3,500 - 7,000 บาท) จนถึงรุ่นเเพง (20,000 บาท ขึ้นไป) ขายรวมถึงสินค้าแฟนซี เช่น กระเป๋านามบัตร ซอง passport กระเป๋าคุณผู้หญิง ซึ่งทางเกาหลีให้การสนับสนุนสินค้าใหม่อย่างเต็มที่ ครบเครื่อง และนี่ถือเป็นโอกาสการทำรายได้ของนักลงทุน เพราะตลาดสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุด คือเครื่องที่ระดับต่ำกว่าหมื่นบาทที่ยังไม่มีเจ้าไหนพร้อมเหมือน “HipArt”

สนใจร่วมธุรกิจติดต่อ บริษัท มูราโน่ แคปปิตอล จำกัด
คุณศุภิกา โพธิ์นิล ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
3199/2 อาคารซิตี้โฮม สุขุมวิท 101/2 ถนนสุขุมวิท แขวงบางนา
เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260
โทร. 0-2398-4343, 08-1171-8575 แฟ็กซ์ 0-2398-4346
E-Mail : info@hipartcase.com
www.hipartcase.com



ที่มา...http://www.smesreport.com/

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Next Prev
▲Top▲