น้ำพริกสาวสุโขทัย ส้มเช้ง

| วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557

แม่นาคแห่งคลองพระโขนง โขลกน้ำพริก (ให้พ่อมากชิม) อร่อยแค่ไหนไม่รู้ ทว่า ส้มเช้ง แห่งเมืองสวรรคโลก จ.สุโขทัย มีชื่อเสียงเรื่องตำน้ำพริก
จนมิตรรักแฟนเพลงเรียกร้องให้ทำน้ำพริกขาย อันเป็นที่มาของ ‘น้ำพริกส้มเช้ง’ หมูหวานได้โอกาสบุกไปถึงปทุมธานี หาตัว ส้มเช้ง สามช่า (บุญญาวัลย์ พงษ์สุวรรณ) ตลกสวยแห่ง เวิร์คพอยท์ น้องสาวของพี่เท่ง เถิดเทิง บอกว่า นอกจากเป็นนักแสดงตลกหญิงหน้าตาดีที่สุดในวงการแล้ว เธอยังมีฝีมือทำอาหาร ทุกวันนี้ก็ยังทำอยู่เนื่องจากพี่ชายสุดหล่อ (เท่ง เถิดเทิง) ไม่ยอมกินอาหารฝีมือใครทั้งนั้น นอกจากน้องสาว

ส้มเช้ง เข้าวงการมา 7 ปี มีผลงานมากมาย เช่น ภาพยนตร์เรื่อง ฟอร์มาลีนแมน, รักคุณเท่าฟ้า, ไฉไล, ผีตาหวานกับอาจารย์ตาโบ๋ ที่กำลังดังขณะนี้คือซิทคอมเรื่อง ‘ระเบิดเถิดเทิง’ และมีโปรเจคพิเศษฉลอง 12 ปี งานนี้ส้มเช้งต้องแสดงร่วมกับ 12 หนุ่มฮอต (ชมได้ทุกวันอาทิตย์ 14.00 น. ช่อง 5)
ส้มเช้งมีพี่น้อง 6 คน ผู้หญิง 3 ผู้ชาย 3 คน พี่คนโตขายของมือสอง คนรองมาเป็นพ่อครัวทำน้ำพริกให้ส้มเช้ง คนที่สามคือพี่เท่ง คนที่สี่ก็คือส้ม อีกสองคนเป็นผู้หญิงแต่งงานแล้ว ส้มไม่ใช่ตลก ทว่าเป็นนักแสดง และสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับนักแสดงก็คือการแสดงตลก อันเป็นขีดจำกัดของผู้หญิง เธอบอกว่าชอบทุกอย่างที่เป็นการแสดง และการร้องเพลง อยากมีอัลบั้มเป็นของตัวเอง ตอนเด็ก ๆ ประกวดร้องเพลงบ่อยจนกระทั่งโต วันที่มีความสุขเป็นวันชนะเลิศการประกวดร้องเพลงที่เวทีตลาดบางใหญ่ ได้ถ้วยจาก สุนารี ราชสีมา นักร้องที่ส้มปลื้มมาก ตอนนั้นร้องเพลงสงสารสุโขทัย ของ ขนิษฐา ธิดาไท เนื่องด้วยเป็นคนสุโขทัย อยากทำอะไรที่มีชื่อบ้านของตนเอง

อีกบทบาทหนึ่งปัจจุบันเป็นแม่ค้าขาย
น้ำพริก เธอว่าเหมือนจับพลัดจับผลูมาเป็นแม่ค้าขายน้ำพริกได้เพราะ ‘เด๋อ ดอกสะเดา’ เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจ ส้มเช้งทำกับข้าวมากองถ่ายเป็นประจำ ทั้งน้ำพริก หมูทอด ไก่ทอด แกงจืด ฯลฯ "อาเด๋อบอกว่าทำเก่งแบบนี้ทำไมไม่ทำขาย เราก็บอกว่าอย่าเลยพี่ทำกินก็ดีแล้ว เขาก็บอกว่างั้นคราวหน้าขอแกงฮังเลนะ ใครอยากกินอะไรก็ทำมาให้ หนักเข้าจากน้ำพริก 1 ถุง ก็กลายเป็น 1 กิโล ไม่พอกลายเป็น 1 ปิ่นโต กับอีก 1 ตะกร้า เพิ่มไปเรื่อย ๆ จนเขาเกรงใจ งบ 300-500 กลายเป็น 1,000 หอบหิ้วอีก ต้องตื่นตี 5 มาทำ ทุกคนก็เกรงใจ บอกว่าทำขายเถอะก็เลยทำ โหน่งซื้อบ้าง สเตจ ประสานงาน เสื้อผ้า ฯลฯ มาซื้อก็ยังไม่พอขาย ก็เลยทำเป็นอุตสาหกรรมไปเลยดีกว่า ซื้อเครื่องปั่น เป็นแพ็คเกจจากขวด มาให้พี่เด๋อดู พัฒนาไปเรื่อย ๆ จนเป็นทุกวันนี้ มีพี่คนหนึ่งซื้อไปอินเดีย 30 กว่าขวดหนักมาก ก็เลยเปลี่ยนเป็นกระปุกพาสติกใสน้ำหนักเบา จากทำอย่างสองอย่างตอนนี้เป็น 7 อย่างแล้ว"
ใครต้องการซื้อน้ำพริกไปชิม เชิญที่เวิร์คพอยท์, หมู่บ้านบัวทอง (บางใหญ่), ปากซอยอารีย์ และกรมศุลกากร พระราม 4 หากจะรับไปขายติดต่อได้ที่ 087-690-6909 ทำขายเป็นล่ำเป็นสันขนาดนี้ ต้องมีทีเด็ดแน่ ๆ สาวสุโขทัยแย้มว่า
“น้ำพริกสุโขทัยพิเศษตรงที่มีเนื้อหมู รสเผ็ดนำ ตามด้วยรสหวาน อมเปรี้ยว เค็มหน่อย ๆ 1 กระปุกกินได้ทั้งบ้าน ความอะเมซิ่งคือเผ็ดและอร่อย บางคนกินแล้วเผ็ดอยากจะหยุด แต่ก็หยุดไม่ได้เพราะว่าอร่อย สรุปแล้วก็กินจนหมดกระปุก พกไปไหนก็ได้ ขึ้นรถ ลงเรือไปเหนือล่องใต้ คุณสามารถสูดดมได้ด้วย กินได้กับของทอดทุกอย่าง หมูทอด ไข่ทอด แตงกวา ผักสดทุกอย่าง ล่าสุดขายแฟรนไชส์ที่เกาะสมุย คุณป้าบอกว่าเผ็ดดุจริง ๆ ขนาดคนใต้ยังบอกว่าเผ็ด ถ้าใครกินเผ็ดไม่เก่งก็มีน้ำพริกปลาย่าง น้ำพริกกุ้งกรอบ เปิดกระปุกแล้วเอาช้อนนั่งกินได้เลย ได้ความคิดนี้มาจากนักธุรกิจที่ใหญ่มากในประเทศไทย เขาบอกว่าทำไมน้ำพริกต้องกินกับข้าวเท่านั้น ทำไมไม่ทำน้ำพริกที่กินเล่นได้เหมือนกินมันฝรั่ง กินอะไรเล่น ๆ เราก็เลยลองทำสูตรนี้มา หมดไปกับการทดลองสูตรมากอยู่ จนออกมาเป็นน้ำพริกกุ้งกรอบ ที่กินเล่นๆ ได้ กินกับชมพู่ ฝรั่ง มะม่วง รสชาติดีไม่ต้องกลัวมีน้ำมัน”
อีกเมนูความอร่อยที่ส้มเช้งบอกว่าทำแล้วมีแต่คนติดใจ คือ หมูต้มโค้ก ได้ไอเดียจากคุณแม่ดาราคนหนึ่ง ทำมากินกันในกองถ่าย ถามวิธีทำแล้วกลับไปลองทำ ประยุกต์เป็นสูตรตัวเอง ทำเสร็จยกมากินในกองถ่ายชิงช้าสวรรค์ มีคนชมว่าอร่อย สูตรที่ว่าใช้เตาถ่านเคี่ยว 5-6 ชั่วโมง โดยใส่โค้กกับหมู ปรุงด้วยซอสแมกกี้ น้ำมันหอย น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น ทุกอย่างใส่ลงไปพร้อมกัน
น้ำพริกสุโขทัย
ส่วนผสม :
1. หมูสับ 1/2 กิโลกรัม
2. หมูสามชั้นหั่นพอดีคำ 1/2 กิโลกรัม
3. พริกป่นอย่างดี 1 กิโลกรัม
4. กระเทียมไทยสับละเอียด
5. มะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น น้ำตาลทราย น้ำมันพืช น้ำเปล่า
วิธีทำ :
1. ตั้งกระทะนำหมูสามชั้นลงไปผัดกับน้ำมันพืช ใช้ไฟอ่อน ๆ จนหมูเหลืองกรอบนิด ๆ
2. ใส่หมูสับลงไปผัดต่อจนหมูสุก
3. นำกระเทียมเจียวลงไปเจียวต่อ จนเหลืองกรอบ ใส่พริกป่นลงไปตามด้วยน้ำเปล่า
4. ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย น้ำมะขามเปียก และเกลือป่น ชิมรสให้ได้เปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวานนิด ๆ ตามชอบ ตักใส่โถไว้รับประทานได้นับเดือน ส่วนน้ำพริกที่เหลือติดกระทะ นำข้าวสวยลงไปผัดคลุกก็ยังได้


ที่มา....http://www.bangkokbiznews.com/

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Next Prev
▲Top▲