ไอศกรีมกด ซอฟโตะ แฟรนไชส์น่าลงทุน

| วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2559


สำหรับผู้กำลังมองหาอาชีพหลักหรือเสริม มีอีกช่องทางมานำเสนอ โดยเป็นธุรกิจกึ่งแฟรนไชส์ไอศกรีม Soft Serve ของบริษัท เบตเตอร์ ดรีมส์ จำกัด ภายใต้แบรนด์ “ซอฟโตะ” (softo) ซึ่งความน่าสนใจอยู่ที่โมเดลธุรกิจเน้นให้เช่าเครื่องไปขายได้ฟรี เปิดโอกาสให้ผู้สนใจสามารถเริ่มต้นอาชีพได้ง่ายๆ แค่มีทุนเริ่มต้นประมาณ 4 พันบาท
กนกกาญจน์ จิตรแข็ง ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เบตเตอร์ ดรีมส์ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องทำไอศกรีม แบรนด์ “ซอฟโตะ” เล่ารายละเอียดให้ผู้สื่อข่าว “SMEs ผู้จัดการออนไลน์” ฟังว่า บริษัทฯ เป็นบริษัทลูกของ บมจ.เธียรสุรัตน์ ดำเนินธุรกิจในเครือหลายอย่าง เช่น ผลิตเครื่องกรองน้ำแบรนด์ SAFE และผลิตเครื่องมือแพทย์ เป็นต้น หนึ่งในนั้นพัฒนาเครื่องทำไอศกรีม Soft Serve ของตัวเองมาอย่างต่อเนื่องนานกว่า 5 ปีแล้ว
ทั้งนี้ จากที่สำรวจธุรกิจในวงการผลิตเครื่องทำไอศกรีม Soft Serve จะพบว่าทุกรายเน้นขายเครื่องให้แก่ผู้สนใจอยากจะไปประกอบอาชีพนี้ ซึ่งราคาต่อหนึ่งเครื่องหลักแสนบาทถือว่าสูงมาก ผู้สนใจอยากทำอาชีพนี้จึงยากจะเข้าถึงได้ ดังนั้น จากวิสัยทัศน์ของท่านประธาน (คุณวีรวัฒน์ แจ้งอยู่) อยากจะเปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้ทำอาชีพนี้ได้ง่ายๆ นำมาสู่รูปแบบให้เช่าเครื่องไปขายได้ฟรีโดยไม่ต้องวางเงินมัดจำด้วย

“ท่านประธานเห็นว่าคนอยากจะมีอาชีพหลักและเสริมจำนวนมาก ซึ่งการขายไอศกรีมก็เป็นหนึ่งในอาชีพที่มีผู้สนใจมากเช่นกัน แต่เนื่องจากเครื่องทำไอศกรีมราคาสูง ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยเข้าไม่ถึงอาชีพนี้ ในขณะที่บริษัทเรามีพื้นฐานความชำนาญเรื่องระบบการเช่าอุปกรณ์ และเราหวังผลตอบแทนระยะยาวมากกว่า ท่านประธานเลยมีแนวคิดให้เช่าเครื่องทำไอศกรีมแก่ผู้สนใจมาทำอาชีพนี้ ซึ่งถือเป็นรายเดียวในตลาดขณะนี้ที่ใช้ระบบให้เช่าเครื่อง ส่วนรายอื่นๆ จะเป็นระบบขายเครื่องทั้งหมด” กนกกาญจน์เสริม
สำหรับรูปแบบการลงทุนของผู้อยากจะมายึดอาชีพนี้กึ่งแฟรนไชส์ เบื้องต้นมีหลักฐานแค่บัตรประชาชนเท่านั้นโดยเงื่อนไขต้องเช่าอย่างน้อย 6 เดือน อัตราค่าเช่าเดือนละ 3,000 บาท โดยการเริ่มต้องซื้ออุปกรณ์เสริมด้วย เช่น ถังผสม ถังล้าง เป็นต้น จำนวน 650 บาท และผงไอศกรีมกึ่งสำเร็จรูป ถุงละ 350 บาท (หนึ่งถุงน้ำหนัก 2 กิโลกรัม) เบ็ดเสร็จลงทุนครั้งแรกจำนวน 4,000 บาท ก็สามารถเริ่มอาชีพขายไอศกรีมได้ทันที

ในส่วนของเครื่องทำไอศกรีมนั้น บริษัทฯ พัฒนาขึ้นเอง จุดเด่นเป็นเครื่องแบบ 3 หัวจ่าย ทำไอศกรีมได้ 2 รส+1 รสผสม โดยเป็นเครื่องระบบ Pre-cooling ทำงานโดย 2 คอมเพรสเซอร์ คุณสมบัติทำความเย็นได้เร็วสูง ปริมาณความจุ 32 ลิตร สามารถทำไอศกรีมได้ 533 โคนต่อชั่วโมง อายุการใช้งานของเครื่องมากกว่า 10 ปี
ผจก.ฝ่ายการตลาดเผยต่อว่า สำหรับผู้สนใจทำอาชีพนี้ ต้นทุนไอศกรีมต่อโคน บวกทั้งค่าเช่าเครื่อง ค่าผงไอศกรีม และค่าโคนไอศกรีมรวมแล้วอยู่ที่ 5.39 บาท ขายปลีกราคา 10 บาท เท่ากับผู้ขายจะเหลือกำไรต่อหน่วย 4.61 บาท โดยคาดการณ์ควรขายได้วันละ 200 โคน ดังนั้น ผู้ขายจะมีกำไรต่อวัน 922 บาท หรือ 27,660 บาทต่อเดือน

อย่างไรก็ตาม ผู้ขายสามารถเพิ่มราคาขายปลีกได้ตามทำเลที่ตั้ง รวมถึงสามารถเพิ่มมูลค่าไอศกรีมด้วยการเพิ่มท็อปปิ้ง หรือขายแบบใส่ถ้วย ซึ่งจะทำให้ขายได้ราคาสูงขึ้น แบบโคนเพิ่มท็อปปิ้ง ขายโคนละ 15 บาท หรือแบบถ้วย 20 บาท เพิ่มท็อปปิ้งเป็นราคา 25 บาท

ในส่วนบริการเสริมของบริษัทฯ นั้นจะมีทีมช่างซ่อมบำรุงเครื่องให้ฟรีตลอดระยะเวลาที่ทำสัญญาร่วมกัน เบื้องต้นให้บริการเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยทุกเครื่องเป็นเครื่องใหม่มือหนึ่ง หากเกิดความเสียหายจากโรงงานจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ทันที ยกเว้นความเสียหายของอะไหล่อุปกรณ์อันเกิดจากการใช้งานของผู้ลงทุน กรณีนี้ผู้ลงทุนต้องเป็นฝ่ายจ่ายเงินซื้ออุปกรณ์เอง โดยจะคิดเฉพาะราคาอุปกรณ์ตามจริงเท่านั้น ไม่คิดค่าซ่อม


นอกจากนั้น ก่อนเริ่มต้นอาชีพจะมีการจัดอบรมความรู้ เช่น การใช้เครื่อง วิธีผสมผงไอศกรีม และการซ่อมบำรุงเบื้องต้น ส่วนบริการส่งอุปกรณ์ต่างๆ นั้นจะผ่านทางระบบไปรษณีย์ เช่น ผงไอศกรีม น้ำหนักถุงละ 2 กิโลกรัม ราคาถุงละ 350 บาท ต่อหนึ่งถุงทำไอศกรีมได้ประมาณ 70 โคน รวมถึงโคน และถ้วยก็มีบริการสั่งได้เช่นกัน

สำหรับขั้นตอนการทำไอศกรีม กนกกาญจน์บอกว่า แค่นำผงไอศกรีมผสมกับน้ำเปล่า ในอัตราส่วนผงไอศกรีม 2 กิโลกรัม ต่อน้ำเปล่า 5 ลิตร แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นนำไปเทลงเครื่องทำไอศกรีม แล้วรอให้ไอศกรีมเย็นแข็งตัวได้รูป เพียงเท่านี้ก็สามารถทำไอศกรีมขายได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม นอกจากระบบให้เช่าเครื่องทำไอศกรีมแล้ว สำหรับผู้ประกอบการที่อยากซื้อขาดเครื่องทำไอศกรีม บริษัทฯ ให้สิทธิ์ได้เช่นกัน โดยมีให้เลือก 2 รูปแบบ คือ เครื่องขนาดจุ 32 ลิตร ราคาอยู่ที่ 89,000 บาท และเครื่องขนาดจุ 22 ลิตร ราคาอยู่ที่ 25,000 บาท
ในส่วนการคัดเลือกผู้สนใจมาทำอาชีพนี้ เบื้องต้นเปิดกว้างแก่ทุกคน ขอแค่มีความตั้งใจจริง และมีทำเลที่ดี โดยเฉพาะในโรงเรียน ถือเป็นทำเลทองของอาชีพนี้ นอกจากนั้น ในอนาคตบริษัทฯ กำลังมีแผนหาทำเลให้ด้วย
    สำหรับการขยายธุรกิจไอศกรีม Soft Serve แบรนด์ “ซอฟโตะ” กนกกาญจน์เล่าว่า เริ่มเปิดตัวมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว (2556) นับถึงปัจจุบันมีลงแล้วประมาณ 50-60 เครื่อง ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ผ่านมายอดขายทุกแห่งไม่ต่ำกว่า 200 โคนต่อวัน ส่วนอัตราความล้มเหลวน้อยมากเพียง 1-2% อันเกิดจากปัจจัยทำเลไม่เหมาะสม ส่วนเป้าหมายในปีนี้ (2557) ต้องการลงให้ถึง 2,000 เครื่อง และให้ถึง 1 หมื่นเครื่องภายใน 5 ปี รวมถึงตั้งเป้าบริษัทฯ คืนเงินลงทุนใน 2 ปี

“แผนการขยายตลาดที่วางไว้ สัดส่วน 70% จะเน้นให้เช่าเครื่องแก่ผู้สนใจอยากจะมีอาชีพนี้ ส่วนอีก 30% ทางบริษัทฯ จะติดต่อโดยตรงกับองค์กรต่างๆ เพื่อไปลงตามร้านสะดวกซื้อเจ้าดัง และโรงแรม ซึ่งเป้าหมายหลักที่ท่านประธานให้ไว้ เน้นให้เช่าเครื่องเปิดโอกาสแก่ผู้สนใจอยากมีอาชีพ เพราะเมื่อเรามีฐานลูกค้าจำนวนมากขึ้นแล้ว ก็จะทำให้บริษัทเกิดผลตอบแทนจากค่าเช่าที่มากขึ้นด้วย ในขณะเดียวกันผู้ลงทุนก็จะมีอาชีพด้วย เกิดประโยชน์วิน-วินแก่ทั้งสองฝ่าย” กนกกาญจน์ระบุ


โทร.0-2962-6652 ,08-1351-2729 หรือ www.betterdreams.co.th หรือ FB: softoicecream


ที่มา...http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000024556

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Next Prev
▲Top▲