คุณพรหมเดช คุณาทวีสุข (ดี้) และคุณพงษ์บดินทร์ คุณาทวีสุข (เกรท) สองพี่น้องที่ริอาจมาเอาดีในธุรกิจชานมไข่มุก ภายใต้แบรนด์ KIN CHA เขาเล่าว่า มันเริ่มมาจากความชอบกินชานมไข่มุกอยู่แล้วเป็นทุนเดิม โดยเฉพาะแฟนสาวของคุณพรหมเดช ที่ชื่นชอบชาไข่มุกมากมายถึงขนาดที่ว่าลงทุนนั่งเครื่องบินไปศึกษาดูงานเกี่ยวกับโรงงานแหล่งผลิตชาไข่มุกถึงไต้หวันโน่นเลยทีเดียว ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากจะศึกษาให้รู้จริงว่าชาไข่มุกสูตรต้นตำรับ และแหล่งผลิตวัตถุดิบที่ดีจริงๆ นั้นต้องเป็นอย่างไร...กระทั่งได้คำตอบที่พอใจจึงนำความรู้ที่ได้มาต่อยอดเพื่อที่จะสร้างแบรนด์ชานมไข่มุกขึ้นเป็นของตนเองครั้งแรก นั่นจึงเป็นที่มาของ ชาไข่มุก KIN CHA
"แม้ว่าจะได้สูตร แหล่งวัตถุดิบต่างๆ แล้ว แต่สิ่งที่เราต้องทำหลังจากนั้นคือ การคิดเพื่อพัฒนาสูตรชานมสูตรแท้ของไต้หวันให้ถูกปากและรสนิยมของคนไทยให้มากที่สุด กว่าจะลงตัวอย่างทุกวันนี้ผมใช้เวลาลองผิดลองถูกนานถึง 8 เดือน แต่ก็ถือว่าคุ้มค่านะ เพราะพอมาเปิดร้านที่ซอยเฉยพ่วง เพียง 3 เดือน ปรากฏว่าเสียงตอบรับดีมาก" คุณพรหมเดช กล่าว
เมนูเด่นเมนหลักประจำร้าน KIN CHA อาทิ ชามัทฉะ, ชานมไข่มุก, ชาแอปเปิ้ลเขียว, โกโก้, ลิ้นจี่, มะนาว, มะม่วง, ชานมคาราเมล, ชานมน้ำผึ้ง, ชานมเผือก, ชานมสตรอเบอร์รี่ (จะพิเศษตรงที่มีเนื้อของสตรอเบอร์รี่ด้วย) ฯลฯ
"ด้านรสชาติ ผมอยากให้คนที่ยังไม่เคยลองได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง หลังจากนั้นค่อยตัดสินใจอีกทีก็ได้ว่ารสชาติของ KIN CHA มีดีอย่างไร ซึ่งบอกได้เลยว่าเข้มข้นหวานมันกลมกล่อมแบบพอดีๆ ขณะเดียวกันสีสันของชานมเผือก สตรอเบอร์รี่ พวกนี้จะไม่ออกแนวสีสันจัดจ้านมากนัก นั่นเป็นเพราะเราเลือกใช้วัตถุดิบเกรด เอ ไม่ผสมสีครับ แล้วการชงชาแต่ละครั้งจะไม่เกิน 4 ชั่วโมง หากเกินนี้ต้องเททิ้งแล้วชงใหม่ ไข่มุกก็เหมือนกันจะไม่ต้มทิ้งไว้นาน แต่จะใช้ให้หมดภายใน 4 ชั่วโมง หากยังไม่หมดยังไงก็ต้องเททิ้งครับ"
สดใหม่ กลมกล่อม คือจุดขาย
ทำไมต้องกินชานม KIN CHA เพราะร้านดีๆ มีเยอะแยะ คุณดี้ ขยายความทันทีว่า "ชานมร้านเรามีจุดเด่นที่ความสดจริง และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ เนื่องจากได้ผ่านการพัฒนาต่อยอดมาแล้วจากสูตรดั้งเดิมให้สอดคล้องกับรสชาติสไตล์คนไทย อีกทั้งวัตถุดิบก็ล้วนเป็นของนำเข้าคุณภาพดี ไปจนถึงอุปกรณ์ที่ใช้ภายในร้านทุกชิ้นล้วนเกรด เอ อย่างเครื่องปั่นยังต้องนำเข้าจากอิตาลี (ราคาประมาณ 20,000 กว่าบาท) ส่วนสาเหตุที่ต้องใช้เครื่องปั่นแทนการเขย่าด้วยมือนั้นเพราะการใช้เครื่องปั่นจะทำให้ชา และส่วนผสมมีความหนาแน่น ส่งผลให้รสชาติที่ได้มีความนุ่มนวลกลมกล่อม ส่วนไข่มุกก็จะนุ่มหนึบเป็นเอกลักษณ์ เพราะเป็นสูตรเฉพาะของทางร้านเราเอง"
แพงกว่า แต่ดีกว่าเยอะ!
เรื่องของราคา คุณเกรท บอกว่า "ราคาที่ขายจะมีตั้งแต่ 30-60 บาท/แก้ว ทำให้บางคนอาจคิดว่า เอ๊ะ! ทำไมราคาสูงกว่าคนอื่น แม้ว่าจะสูงกว่าไม่มากประมาณ 5-10 บาท นั่นเป็นเพราะต้นทุนเราต่างกัน คือเราเลือกใช้แต่วัตถุดิบชั้นดีจริงๆ แต่ถ้าเป็นคนที่เคยลองชิมแล้ว เขาจะได้คำตอบด้วยตัวเองครับว่าทำไมชานมร้านเราจึงแพงกว่าที่อื่น ฉะนั้น ต้องมาหาคำตอบด้วยการลองชิมครับ"
3 เดือนแตกไลน์แฟรนไชส์
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของ KIN CHA คือ กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัย และในกลุ่มพนักงานออฟฟิศ และที่ผ่านมาเจ้าของแบรนด์บอกว่ามักมีลูกค้าถามหาแฟรนไชส์ยิ่งนานวันก็ยิ่งมีมากขึ้น ส่งผลให้ KIN CHA จำเป็นต้องวางแผนธุรกิจเป็นแฟรนไชส์ในเวลาต่อมา
สำหรับรูปแบบการลงทุน (ไซส์เอส ราคา 350,000 บาท) สิ่งที่จะได้รับคือ อุปกรณ์ คีออส ทุกอย่างพร้อมขาย ที่สำคัญคือ เครื่องคิดเลขระบบคอมพิวเตอร์มีโปรแกรมการจัดเก็บข้อมูลรายการซื้อ ซึ่งเป็นโปรแกรมพิเศษที่พัฒนาขึ้นมาเอง ข้อดีของโปรแกรมนี้คือ ได้จัดเก็บข้อมูลลูกค้าว่าซื้อสินค้าอะไรไปบ้าง ทั้งนี้ก็เพื่อแฟรนไชส์ซอว์จะได้มีข้อมูลสำหรับทำการตลาดกระตุ้นยอดขายได้อย่างตรงใจลูกค้ามากที่สุดนั่นเอง
คืนทุนได้ภายใน 5-6 เดือน
ระยะเวลาคืนทุน คุณดี้อธิบายว่า "บอกตามตรงว่ากำไรต่อแก้วอาจไม่มากนัก เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบค่อนข้างสูง ทั้งนี้ เพราะเราต้องการทำธุรกิจแบบยั่งยืน ฉะนั้น หากขายได้ 150-200 แก้ว/วัน ก็จะใช้ระยะเวลาคืนทุนที่ประมาณ 5-6 เดือน (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งร้าน และต้นทุนค่าเช่าร้านด้วย)
เรื่องของราคา คุณเกรท บอกว่า "ราคาที่ขายจะมีตั้งแต่ 30-60 บาท/แก้ว ทำให้บางคนอาจคิดว่า เอ๊ะ! ทำไมราคาสูงกว่าคนอื่น แม้ว่าจะสูงกว่าไม่มากประมาณ 5-10 บาท นั่นเป็นเพราะต้นทุนเราต่างกัน คือเราเลือกใช้แต่วัตถุดิบชั้นดีจริงๆ แต่ถ้าเป็นคนที่เคยลองชิมแล้ว เขาจะได้คำตอบด้วยตัวเองครับว่าทำไมชานมร้านเราจึงแพงกว่าที่อื่น ฉะนั้น ต้องมาหาคำตอบด้วยการลองชิมครับ"
3 เดือนแตกไลน์แฟรนไชส์
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของ KIN CHA คือ กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัย และในกลุ่มพนักงานออฟฟิศ และที่ผ่านมาเจ้าของแบรนด์บอกว่ามักมีลูกค้าถามหาแฟรนไชส์ยิ่งนานวันก็ยิ่งมีมากขึ้น ส่งผลให้ KIN CHA จำเป็นต้องวางแผนธุรกิจเป็นแฟรนไชส์ในเวลาต่อมา
สำหรับรูปแบบการลงทุน (ไซส์เอส ราคา 350,000 บาท) สิ่งที่จะได้รับคือ อุปกรณ์ คีออส ทุกอย่างพร้อมขาย ที่สำคัญคือ เครื่องคิดเลขระบบคอมพิวเตอร์มีโปรแกรมการจัดเก็บข้อมูลรายการซื้อ ซึ่งเป็นโปรแกรมพิเศษที่พัฒนาขึ้นมาเอง ข้อดีของโปรแกรมนี้คือ ได้จัดเก็บข้อมูลลูกค้าว่าซื้อสินค้าอะไรไปบ้าง ทั้งนี้ก็เพื่อแฟรนไชส์ซอว์จะได้มีข้อมูลสำหรับทำการตลาดกระตุ้นยอดขายได้อย่างตรงใจลูกค้ามากที่สุดนั่นเอง
คืนทุนได้ภายใน 5-6 เดือน
ระยะเวลาคืนทุน คุณดี้อธิบายว่า "บอกตามตรงว่ากำไรต่อแก้วอาจไม่มากนัก เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบค่อนข้างสูง ทั้งนี้ เพราะเราต้องการทำธุรกิจแบบยั่งยืน ฉะนั้น หากขายได้ 150-200 แก้ว/วัน ก็จะใช้ระยะเวลาคืนทุนที่ประมาณ 5-6 เดือน (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งร้าน และต้นทุนค่าเช่าร้านด้วย)
โปรโมชั่นพิเศษตลอดกาลสำหรับลูกค้า KIN CHA สั่งซื้อ 5 แก้วแถมฟรี 1 แก้ว ทั้งนี้ ก็เพื่อซัพพอร์ตลูกค้าที่โทร.มาสั่งแบบดิลิเวอรี่ ตามเงื่อนไข คือ ค่าจัดส่งจะคิดตามราคามอเตอร์ไซค์รับจ้าง โดยลูกค้าจะต้องจ่ายค่าส่งให้กับมอเตอร์ไซค์รับจ้างเอง
คุณเกรทเล่าว่า "ทุกวันนี้จะมีลูกค้าขาประจำโทร.สั่งจากหลายๆ แห่ง เช่น พนักงานออฟฟิศย่านวงศ์สว่าง สุทธิสาร หลังการบินไทย โดยจะสั่งประมาณ 30 แก้วต่อครั้ง (เท่ากับลูกค้าได้แถมฟรี 6 แก้ว มูลค่า 200 กว่าบาท) " และอีกโปรโมชั่น คือ 1 แก้ว = สแตมป์ 1 ดวง (โปรนี้จะแยกกับ ซื้อ 5 แถม 1) สะสมครบ 10 ดวงรับชานมอะไรก็ได้มูลค่า 40 บาทฟรี 1 แก้ว
ปัจจุบันร้าน KIN CHA ต้นแบบ ตั้งอยู่ที่ซอยเฉยพ่วง หรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อที่หมายเลข 08-1553-7676, 08-1923-4547 facebook.com/KinChaThailand
ที่มา...http://www.thairath.co.th/content/282487
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น